มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554 นายยงยุทธ ทองสุข รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คงแร่ใยหินไครโซไทล์เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ต้องขออนุญาตในการนำเข้า ผลิตและจำหน่าย ก่อนกำหนดให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามนำเข้าและจำหน่าย เนื่องจากต้องการให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัว
  นอกจากนี้ กรมโรงงานยังอยู่ระหว่างว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาไปศึกษาข้อมูลรายละเอียด เกี่ยวกับความจำเป็นและความพร้อมในแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปจัดทำแผนลดและเลิกใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ให้ชัดเจนและ เหมาะสมต่อไป “บริษัทที่ปรึกษาจะศึกษาสินค้า 5 ผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ อาทิ กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องยาง เบรก คลัตช์ และท่อน้ำ
   เพราะสินค้าบางตัวยังไม่มีเทคโนโลยีและวัตถุอื่นทดแทนได้ คาดว่าภายในระยะเวลา 6 เดือนน่าจะมีกรอบชัดเจนออกมาว่าจะประกาศยกเลิกได้เมื่อไร” นายยงยุทธกล่าว นายยงยุทธกล่าวว่า ต้องให้ระยะเวลาปรับตัวเพราะมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่งลงทุนผลิตเพียง 4-5 ปี สถิติการนำเข้า ผลิตและจำหน่ายแร่ใยหินไครโซไทล์ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้เพิ่มขึ้น มีผู้นำเข้าและผลิตรวมกันประมาณ1,000 ราย มีสินค้าที่มีแร่ใยหินไครโซไทล์เป็นส่วนประกอบประมาณ 2,000 รายการ สินค้ากลุ่มกระเบื้องมีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบมากที่สุดถึง 80-90% นายยงยุทธกล่าวว่า ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการห้ามนำเข้าแร่ใยหินไครโซไทล์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุ ดิบอื่นทดแทนได้ กำหนดกรอบระยะเวลา1 ปี
   มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปจัดทำแผนในการยกเลิกการนำเข้า ผลิตและจำหน่ายแร่ใยหินและผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบทุกชนิด หน้า: 19(ขวา)Ad Value: 19,910 PRValue (x3): 59,730 20110805_1213_HA_Matichon (Mid-Day)