เมื่อกลางเดือนมิถุนายน เวลาเย็นย่ำหลังเลิกงานประชุมวิชชาการ “ปฏิรูประบบสุขภาพและชีวิต ปฏิรูปจิตสำนึกประชาธิปไตย” ในโอกาส 9 ปี สช. ณ ห้องๆหนึ่งในอิมแพ็ค เมืองทองธานี ในนั้นมีเพื่อนๆ ชาว นนส. กว่าร้อยคน ที่ได้นัดหมายชักชวนกันมารวมรุ่น เพื่อพบปะสังสรรค์ กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น เราเรียกชื่องานวันนั้นอย่างเป็นทางการว่า เวทีเปิดพื้นที่ทางสังคม (Open public space) “นนส. 55 – 58: สานสัมพันธ์ เชื่อมความคิด สานทิศทาง สู่อนาคต” แต่ต่างรู้กันว่า นั่นคือเวทีที่เรียกเพื่อนมาเจอเพื่อน มาเติมเชื้อไฟก่อนต้องแยกย้ายเดินทางกลับไปทำงานในพื้นที่ของตน วงคุยวันนั้นจึงเต็มไปด้วยถ้อยคำของการถามไถ่ ให้แรงบันดาลใจ รวมถึงยืนยันว่าจะร่วมสานพลัง สร้างสุขภาวะไปด้วยกัน โดยพร้อมกัน ทั่วประเทศ ให้สมกับเป็นนักสานพลังขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม หรือ นนส.

พระฤทธิชัย  อภิเมธี ผู้ประสานงานสมัชชาสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ หรือ “ตุ๊อ้วน” นนส. ปี 2558 แลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจโดยถามจากใจว่า นนส. มารวมกันนี้ มาจากใจ หรือเสแสร้ง เพราะว่าในความเป็น นนส. พวกเรารู้จัก เข้าใจตนเองหรือไม่ ที่มาพบกันมาแบบรู้สึกอย่างไร มีความสุขหรือไม่ และเมื่อกลับไป นนส.หายไปหรือไม่ เรามาแบบมีความหวัง คาดหวัง หรือกดดันให้ สปพ. ทำอะไรให้เราอยู่หรือไม่ วันนี้เรามารวมกัน เราได้มาพบปะกันตั้งแต่ นนส.รุ่นปี 2555 – 2558 แต่รุ่น 2559 จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ก็อยู่ที่พวกเรา ตามหลัก เวทีอื่นๆ เขากลับกันหมดแล้ว เหลือแต่พวกเรากับข้าวกล่อง แต่ในส่วนของอาตมาอยากมาพบปะ ในการที่เราจะได้เรียนรู้ร่วมกัน และคิดว่าจะได้พลัง ได้แรงบันดาลใจจากทุกท่าน อาตมาเป็นพระก็มีความตั้งใจที่จะเรียนรู้ร่วมกับพวกเรา บนพื้นฐานของแนวคิดกระบวนการเรียนรู้ที่ให้แต่ละคนเป็นครูให้กันและกัน เพราะฉะนั้นอาตมาจึงนับว่าทุกคนในที่นี้เป็นครูของอาตมาด้วย ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาส และขอบคุณ สช.ที่ให้เราได้มาเจอกันในวันนี้ เจริญพร

นายเกรียงไกร มีช่วง เครือข่ายกระเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรม เขตตะนาวศรี นนส.ปี 2558 ผมรู้สึกว่ามางานนี้ไม่ผิดหวัง ผมได้เรียนรู้จากพี่ๆ ว่าผมต้องออกมาเจอโลกกว้าง และผมเดินทางออกมาไกลมาก เพราะบ้านผมอยู่ลึกมาก แม้ผมจะออกมาเรียนรู้ไกลมากแล้วก็ยังมีปัญหา พี่น้องของผมที่ออกมาเรียนรู้ก็เจอปัญหา วันนี้ผมได้ออกมาเรียนรู้นโยบายสาธารณะร่วมกับคนทุกคน เพื่อแก้ปัญหาไปด้วยกัน ผมก็ยังรู้สึกว่าอยากเห็นประเทศของพวกเราที่มี นนส. เป็นพลังในการสร้างความเข้าใจ และเปลี่ยนประเทศไปพร้อมกัน วันนี้ผมก็ยังมีกำลังใจ และกำลังใจส่วนหนึ่งของผมก็มาจากพี่น้อง นนส. ในที่นี่

นายสุชีพ พัฒน์ทอง นนส.ปี 2558 จ.ระนอง มองว่าภาษาถิ่นถือเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ เพราะการทำงานตอนนี้ กำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และจังหวัดระนองก็มีประเด็นการค้ามนุษย์ ตนได้พยายามสื่อสารปัญหานี้กับทุกคน กับ สช.เพื่อให้แก้ปัญหาเรื่องโรฮิงยา แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมาถึงวันนี้ปัญหาบานปลายออกไปมาก ผมพยายามพูดภาษาพม่า ตอนนี้ถามว่าเราขาดแรงงานพม่าในพื้นที่ได้หรือไม่ ถ้าขาดไปเราจะเดือดร้อนแน่นอน เรื่องนี้เราต้องยอมรับ เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ภาษาของประเทศเพื่อนบ้านไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่ใช่เรื่องไร้ศักดิ์ศรี แต่ผมเรียนรู้ภาษาพม่าเพื่อทำให้คนไทยได้รู้ว่าภาษาแต่ละภาษาเป็นหัวใจของการสานพลัง นักสานพลังยิ่งรู้ภาษามากก็ยิ่งสานพลังได้มาก และนี่คือแรงบันดาลใจ

นายสุทธิธรรม เลขวิวัฒน์ นนส. ปี 2556 จ.ระยอง แรกเริ่มไม่รู้ว่าจะมาอบรมอะไร แต่พอเข้ามา นนส.คือคนที่จะมาสานพลังทั้งแผ่นดิน เพื่อไปทำงาน ทำสิ่งดีๆ มีอุดมการณ์ว่าสังคมไทยจะมีความสุขร่วมกัน แล้วจะทำอย่างไรให้คนมีความสุขร่วมกันได้ หนึ่งในนั้นคือการทำให้คนมีสถานะร่วมกันได้ และโปรแกรม นนส.ก็นำพาให้เราได้รู้จักเครื่องมือสร้างนโยบายสาธาณะเพื่อสุขภาพ 3 ชิ้น ได้รู้จักกระบวนการสร้างธรรมนูญสุขภาพ ได้เห็นว่าเป็นการให้ทุกคนมาคุยกัน เพื่อตกลงสร้างกฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน สร้างนโยบายร่วมกัน และคิดว่าสิ่งนี้คือคำตอบ การเข้าร่วมตั้งแต่ปี 2556 กระทั่งผ่านมา 3 ปี พบว่าพลังของนักสานพลังมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าเราทุกคนจะมาร่วมกันสานพลังจับมือไปข้างหน้าด้วยกัน

      &nb sp;     นายสมัย รัตนจันทร์ นนส. ปี 2555 จ.เชียงราย เวลานั้นเข้ามาเป็นสมาชิก นนส.ในฐานะของนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าสาย แต่ตัวตน ยศ ตำแหน่งของเราถูกสลายไปด้วยเพื่อนร่วมรุ่น เราผ่านการถกเถียง ทะเลาะกัน โกรธกัน ขับรถกลับบ้าน กว่าจะสำนึกผิด กว่าจะขอโทษเพื่อนก็ใช้เวลา นักสานพลังกว่าเราจะทำงานด้วยกันได้ ต้องใช้เวลาที่จะทดสอบองค์ความรู้ จิตใจ และความคิดซึ่งกันและกัน วันหนึ่งงเราก็คุยกัน แล้วมาปรึกษาพี่พงษ์ (อ.สุทธิพงษ์ วสุโสภณกุล ผอ.สปพ.) ว่าให้ช่วยคิดโครงการหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เราได้มาอยู่ร่วมกัน ความคิดในวันนั้นทำให้เราได้เห็นภาพในวันนี้ และพบว่าการเป็นนักสานพลังในวันนี้เป็นส่งที่ลงตัวมาก เราทำหนึ่งได้ร้อย เราทำน้อยได้มาก วันนี้เราก็คิดว่าเราจะสานพลังสู่อนาคตร่วมกันเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อลูกหลานและบ้านเมืองร่วมกันได้

        & nbsp;   หลังจบการแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจ คุณสุทธิพงษ์ วสุโสภณกุล ผู้อำนวยการโปรแกรมพัฒนาศักยภาพ นนส. ได้พบปะพูดคุย จากนั้นมีการแนะนำเว็บไซต์ areahpp.net สำหรับเป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยง นนส.ทั่วประเทศได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และแจ้งข่าว บอกเล่าการขับเคลื่อนงานนโยบายสาธารณะในพื้นที่ ในการนี้มีการเปิดพื้นที่ให้ทุกจังหวัดได้สมัครเป็นบล๊อกเกอร์ของเว็บไซต์ เพื่อสื่อสารงานของจังหวัดด้วยตนเอง โดยมีผู้เข้าร่วมเปิดเพจในเว็บไซต์รวม 15 จังหวัด และช่วงท้ายของเวที นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการ สช. ได้กล่าวจุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ นนส.ทุกคน ซึ่งทีมงาน areahpp.net จะเรียบเรียงมานำเสนอ โปรดติดตาม

ที่มา http://www.samatcha.org/areahpp