กิจกรรมภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม ของภาคประชาชน - DSI “เพื่อการป้องกันและปราบปราม คดีความผิดฐานค้ามนุษย์ (TIPNET)”

เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 13 มีนาคม 2561 ณ โพธิ์วดล รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดเชียงราย ได้มีการเปิดโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ (TIPNET) เป็นเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อการป้องกันและปราบปรามคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ประกอบด้วยภาคีเครือข่ายภาคประชาชน อันประกอบไปด้วยเครือข่ายภาคประชาชนที่อยู่ในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ มูลนิธิต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และนักข่าวสุขภาวะภาคเหนือได้รับเกียรติเชิญในครั้งด้วย โดยมี พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ อบรมฯ และบรรยายพิเศษในหัวข้อ “บทบาทและภารกิจกรมสอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการเครือข่ายป้องกันการค้ามนุษย์” โดยท่าน ผอ.นิคม สุวรรณรุ่งเรือง ผู้อำนวยการกองนโยบายและยุทธศาสตร์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมโครงการทบทวนบทบาทภาคกิจกรรมสอบสวนคดีพิเศษ แหล่งข่าว และการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน การเฝ้าระวังอาชญากรรมที่เป็นคดีพิเศษ มี ผอ.มานะ สิมมา จากกรมการปกครอง บรรยายในหัวข้อ “สถานการณ์การค้ามนุษย์ในภาคเหนือ” และ พันตำรวจโท สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ บรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ “ลักษณะของอาชญากรรมคดีพิเศษด้านการค้ามนุษย์” มี นางสาวนฐพร บุญยะกร ผอ.ส่วนเครือข่ายการป้องกันการเกิดอาชญากรรมพิเศษ และนายสุวัฒน์ ณ.นคร ผอ.ส่วนอำนวยการคดี เป็นวิทยากรดำเนินรายการตลอดการอบรม สำหรับการจัดกิจกรรมฯ ในครั้งนี้มีกำหนดจัดงานเริ่มตั้งแต่ วันที่ 13 มีนาคม ถึง 15 มีนาคม 2561 โดยเน้นกิจกรรมการค้ามนุษย์เป็นหลักและตามด้วยกิจกรรมร่วมของภาคีเรือข่าย จากมูลนิธิต่าง ๆ และองค์กรสิทธิมนุษย์ชน มีชมวีดีทัศน์ชุดการค้ามนุษย์ ลักษณะของอาชญากรรมพิเศษด้านการค้ามนุษย์ แรงงานข้ามชาติ ปัญหาด้านแรงงานต่าง ๆ ในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา และพัฒนาการรูปแบบการค้ามนุษย์-เด็ก-การค้าประเวณี-ขอทาน-แรงงาน เพราะการค้ามนุษย์นั้นมีหลายประเภท เช่น ค้ามนุษย์เพื่อใช้แรงงานเยี่ยงทาส - ค้ามนุษย์เพื่อการแต่งงานในรูปแบบการรับจ้างแต่งงาน ถูกข่มเหงจากครอบครัวนายจ้าง - ค้ามนุษย์เพื่อการขอทานเป็นรูปแบบที่เพิ่มขึ้นโดยนำเด็ก คนชรา คนพิการ เร่ร่อนขอทานในเมืองใหญ่ – ค้ามนุษย์เพื่อการทำผิดกฎหมาย ซึ่งเหยื่อมักเป็นเด็ก ๆ โดยนำเด็กเป็นเครื่องมือในการส่งยาเสพติดให้ผู้ค้ารายย่อย การค้ามนุษย์ที่พบเห็นเป็นประจำ เช่น การค้าบริการทางเพศซึ่งเหยื่ออาจอยู่ในภาวะจำยอม หรือถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ และที่สำคัญในรูปแบบการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ทั้งเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชายในรูปแบบการค้าประเวณีเด็ก หรือการค้าเด็ก การซื้อขายเด็ก การเช่าเด็ก การค้าแรงงานทาส (ธุรกิจประมง) ซึ่งแรงงานไทยส่วนใหญ่จะปฏิเสธงานลักษณะนี้ จึงเกิดวิกฤติขาดแคลนแรงงาน จึงต้องอาศัยนำแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งแบบถูกกฎหมายและแบบหลบหนีเข้าเมือง ถูกเอารัดเอาเปรียบแรงงาน โดยแรงงานส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะต้องทนจำยอม และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ บางคนเป็นโรคซึมเศร้า- คิดฆ่าตัวตาย – บางรายเป็นโรคร้ายฯ สำหรับทิศทางการดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มุ่งเน้นการดำเนินงานด้านเครือข่าย ความร่วมมือ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน สร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม เพื่อสุขภาวะกาย สุขภาวะใจ ของพี่น้องประชาชน และยึดหลักธรรมาภิบาลในการทำงาน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำหลักการทำงานแบบมีส่วนร่วม ของภาคีเครือข่ายในการทำงานทุกพื้นที่มาบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการป้องกันและปราบปรามคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยใช้รูปแบบเครือข่ายความร่วมมือในลักษณะเป็นหุ้นส่วน เสริมสร้างกระบวนการขับเคลื่อนงานเครือข่ายในหลากหลายรูปแบบ ที่จะมาเสริมสร้างร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการป้องกันอาชญากรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนและสังคมมีความสงบสุข มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตลอดไป.