รายงานข่าวสุขภาวะ : วิทยากรครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่

เมื่อไม่นานมานี้ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ จัดโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพครู สู่การเป็นวิทยากรเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงแรมอินภาวา อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยมีครูจิตอาสา จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมกิจกรรม รวม 30 คน ซึ่งในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี มีเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ เข้าร่วมอบรมประกอบด้วย ครู จากโรงเรียนนารีนุกูล โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 32 , โรงเรียนอุบลราชธานีศรีวนาลัย , โรงเรียนหกสิบพรรษาวิทยาคม , โรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ และโรงเรียนกุดข้าวปุ้น วิทยา โดยเครือข่ายวิทยากรครูที่ผ่านการอบรมดังกล่าว จะต้องกลับไปเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมรณรงค์ขับเคลื่อนโรงเรียนปลอดบุหรี่ในพื้นที่ของตนเองต่อไป

ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี มีปัญหาสำคัญที่น่าเป็นห่วง นั่นคือ จ.อุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ลาว และกัมพูชา เป็นเหตุให้เกิดปัญหาการระบาดของบุหรี่เถื่อน ที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด จึงทำให้เยาวชนสามารถเข้าถึงบุหรี่ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หากไม่มีมาตรการในการป้องกันที่ชัดเจน เด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี จะกลายเป็นผู้ติดบุหรี่ในระยะยาวที่ทำให้เลิกสูบบุหรี่ได้ยากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามภาคส่วนต่าง ๆ ในจังหวัดอุบลราชธานี ได้พยายามดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยกันลดอัตราการสูบบุหรี่ของประชากรในจังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันนักสูบหน้าใหม่ เนื่องจากเยาวชนคือกลุ่มลูกค้า เป้าหมายสำคัญของพ่อค้าบุหรี่ เยาวชนเหล่านี้ จึงจำเป็นต้องได้รับทราบถึงอันตรายของการสูบบุหรี่ และกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทบุหรี่ เพื่อที่จะได้รู้เท่าทัน และป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นทาสของการเสพติดบุหรี่


องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยในปีนี้ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์ ซึ่งแปลเป็นไทย ได้ว่า บุหรี่ : ภาษียิ่งเพิ่ม คนตายยิ่งลด การเพิ่มราคาบุหรี่ ซึ่งเป็นวิธีที่จะลดการบริโภคยาสูบได้ดีที่สุด และจากงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าในประเทศที่รายได้สูง หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว หากเพิ่มภาษียาสูบขึ้น 10% จะลดการบริโภคยาสูบได้ถึง 4 % ในขณะที่หากเพิ่มภาษียาสูบสูงขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำ หรือปานกลาง จะทำให้สถิติการบริโภคยาสูบลดลงได้มากถึง 8% ดังนั้น มาตรการการเพิ่มภาษียาสูบที่สูงขึ้น จึงเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมการสูบบุหรี่ ในกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันเด็กและเยาวชน ที่คิดจะเริ่มต้นหรือเข้าถึงการสูบบุหรี่อีกด้วย นอกจากนี้การเพิ่มภาษียาสูบสรรพสามิต ยังถือเป็นมาตรการที่สำคัญ ในการควบคุมการบริภคยาสูบ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จะเห็นได้จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ในปี ค.ศ. 2010 ได้ชี้ให้เห็นว่า ถ้าหากมีการเพิ่มภาษียาสูบสรรพสามิต 50 % ..ใน 22 ประเทศ ที่มีรายได้ต่ำ จะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 42,000 ล้านบาท และหากนำเงินภาษีนี้ มาจัดสรรเป็นงบประมาณในการดูแล รักษาสุขภาพประชาชนในประเทศที่รายได้ต่ำเหล่านี้ จะมีงบประมาณด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นถึง 50 %

บุหรี่ = ยาเสพติด ภาษี ยิ่งเพิ่ม คนตายยิ่งลด ... พบกันใหม่สัปดาห์หน้า นิชรา บุญตะนัย จากสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าว สุขภาวะ ภาคอีสาน สานใจ สานพลัง รายงานจาก จ.อุบลราชธานี ค่ะ